การศัลยกรรมเพื่อแก้ไขคางยื่น / ฟันสบผิดปกติ / หน้าเบี้ยว ในประเทศไทยการผ่าตัดเพื่อแก้ไขขากรรไกรผิดปกติ ยังมีแพทย์ไม่กี่ท่านที่สามารถทำได้ ซึ่งมีการจองคิวผ่าตัดข้ามปีกันเลยทีเดียว ในกรณี การผ่าตัดขากรรไกร ทางทีมงาน Surgery Review ยินดีให้คำปรึกษาและแนะนำจากทีมแพทย์อย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้ลูกค้าได้รับการผ่าตัดที่ดีที่สุด และคุ้มค่าการลงทุนไม่ว่าจะทำในประเทศไทยหรือเกาหลีก็ตาม
การผ่าตัดขากรรไกร
ขากรรไกร (JAW) ทำงานเกี่ยวกับการขบเคี้ยว เป็นกระดูกส่วนที่รองรับฟันทั้งปากบน- ล่าง
ขากรรไกรบน เรียกว่า Maxilla บน
ขากรรไกรล่าง เรียกว่า Mandible ล่าง
ส่วนกราม เรียกว่า Angle of mandible (คือส่วนมุมของขากรรไกรล่าง)
ผู้ที่เหมาะสมกับการผ่าตัดขากรรไกร
- ฟันสบผิดปกติ เคี้ยวอาหารไม่ละเอียด
- ส่วนมากฟันล่างครอบฟันบน หรือบางเคส ฟันบนครอบฟันล่าง หน้าเบี้ยวชัดเจน
- ถือเป็นศัลยกรรมใหญ่ที่สุดบนใบหน้า อายุเกิน45ปี หมอจะไม่ทำให้ เนื่องจากมีความเสี่ยงเพราะใช้เวลาผ่าตัดค่อนข้างนาน
- บางเคส ปัญหาอยู่ที่ขากรรไกรก็จริงๆ แต่การผ่าตัดรักษา สามารถแก้ไขโดยการตัดกราม ยุบโหนก เลื่อนคางได้เหมือนกัน โดยแพทย์ผ่าตัดจะเป็นผู้พิจารณาเป็นรายบุคคลไป
รูปแบบการการศัลยกรรมขากรรไกร
1. IMF (Inter Maxillary Fixation)เป็นวัสดุช่วยดึงล็อกฟันบนและฟันล่างให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องโดยต้องใส่ต่อเนื่องฃ
2. No-Fix หลังการผ่าตัดขากรรไกรจะไม่มีการยึดอุปกรณ์ไว้ ซึ่งจำเป็นต้องใช้ทักษะและเทคนิคที่ค่อนข้างสูง ซึ่งการศัลยกรรมขากรรไกรแบบ No-fix มีข้อดี ดังนี้
– ไม่รู้สึกอึดอัดหลังการผ่าตัด สามารถอ้าปากได้สบายขึ้น เนื่องจากไม่มีเครื่องมือสำหรับยึดฟันในช่องปาก
– ระบบการหายใจดีขึ้น เนื่องจากไม่มีเครื่องมือดึงฟันไว้ สามารถอ้าปากได้ทันทีหลังการผ่าตัด
– สามารถดูแลความสะอาดภายในช่องปากได้ง่าย เนื่องจากไม่มีเครื่องมือภายในปาก
อุปกรณ์เสริมหลังการผ่าตัด
- จะมีเวเฟอร์ อุปกรณ์ครอบฟันช่วยกั้นการกระทบกันของฟันล่างและฟันบน
- อาจต้องมีการจัดฟันด้วยหลังการผ่าตัด
การผ่าตัดศัลยกรรมขากรรไกรเพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
ในกรณีที่คนไข้ จำเป็นต้องผ่าตัดขากรรไกรล่างและบน เพื่อแก้ไขปัญหาขากรรไกรยื่นและเจริญเติบโตมากเกินไป มักทำควบคู่กับการศัลยกรรมตัดมุมกราม หรือเรียกว่า วีไลน์ นั่นเอง เพื่อขยับให้ขากรรไกรได้สัดส่วน และทำให้ใบหน้าได้สัดส่วนมากขึ้น