รีวิวศัลยกรรมผ่าตัดขากรรไกร เลื่อนขากรรไกร แก้ปัญหาคางยาว คางยื่น

ปัญหาคางยาว คางยื่นเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ เช่น กรรมพันธุ์หรือความผิดปกติของฮอร์โมนที่ส่งผลให้กระดูกขากรรไกรมีการเติบโตที่ผิดปกติ ซึ่งอาจส่งผลสู่ปัญหาการสบฟัน ทำให้ฟันเก ฟันล้มได้ นอกจากนั้นปัญหาคางยื่นยังส่งผลให้เกิดความไม่มั่นใจอีกมากแก่ผู้เป็น ซึ่งวิธีรักษาก็จะมีการจัดฟันในกรณีที่ยื่นเพียงเล็ก การผ่าตัดปรับรูปขากรรไกรและคาง หรือการทำทั้งสองอย่างร่วมกันขึ้นเพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งแต่ละคนก็จะต้องมีวิธีการรักษาที่ต่างกันขึ้นอยู่กับรูปหน้าและปัญหาของคนไข้

ปัญหาที่กังวลของคนไข้เคสนี้

ใบหน้ายาวไม่สมส่วน อยากมีใบหน้าที่สมส่วนชัดเจน
คางยื่นผิดรูป

รายการศัลยกรรมผ่าตัด

ผ่าตัดบริเวณขากรรไกร เลื่อนขากรรไกรให้เข้ารูป แล้วผ่าตัดบริเวณกรามให้มีขนาดเล็กลงให้ใบหน้ามีความเป็น V Shape มากขึ้น พร้อมผ่าตัดลดความยาวของคางให้สั้นลง
เนื่องจากเป็นการผ่าตัดและขยับขากรรไกรเพื่อแก้ปัญหาการสบฟันดังนั้นจึงต้องมีการจัดฟันใสร่วมด้วยประมาณ 3-4 เดือน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์สูงที่สุด

อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : ข้อแนะนำที่ควรรู้ผ่าตัดขากรรไกรครั้งแรก เตรียมตัวยังไง เลือกผ่าตัดแบบไหนดี

ตารางศัลยกรรมเมื่อมาถึงเกาหลีใต้

โดยเคสนี้คนไข้จะต้องใช้เวลาในการรักษาที่ประเทศเกาหลีประมาณ 4 สัปดาห์

วันที่ 1

คนไข้เดินทางจากไทยมาถึงเกาหลีเวลาประมาณ 10.00 น. โดยมีเจ้าหน้าที่ไปรับที่สนามบินเพื่อไปส่งที่พัก เพื่อรอผลตรวจ RTPCR ก่อนเข้ารับการรักษา

วันที่ 2

ล่ามพาคนไข้ไปที่โรงพยาบาล EU Maxillofacial center เพื่อพบกับคุณหมอคิมจองยุน (Kim Jong Yun) คุณหมอผู้ทำการรักษา เพื่อทำการปรึกษาปัญหาที่ต้องการแก้ไข รวมถึงการตรวจร่างกาย เอ็กซเรย์รูปหน้า และทำเวอเฟอร์ก่อนผ่าตัด 4 วัน

เวเฟอร์ คืออุปกรณ์ครอบฟันเพื่อป้องกันการสบกันของฟันหลังผ่าตัด

วันที่ 6

08.00 น. คนไข้เดินทางถึงโรงพยาบาลพร้อมกับล่าม เพื่อทำการเปลี่ยนชุดเพื่อเตรียมตัวเข้าห้องผ่าตัด
คนไข้เข้าพบกับคุณหมออีกครั้งเพื่อสรุปรายละเอียดขั้นตอนการทำศัลยกรรมและวิธีผ่าตัดแก้ไขปัญหารูปหน้า
13.30 น. คนไข้เข้ารับยานอนหลับจากวิสัญญีแพทย์
18.30 น. คนไข้ออกจากห้องผ่าตัดเพื่อมายังห้องพักฟื้นโดยมีล่ามและพยาบาลเป็นผู้ดูแลอย่างใกล้ชิด โดยมีคุณหมอเข้ามาดูอาการพร้อมแจ้งผลการตัดว่าเป็นไปอย่างเรียบร้อย
หลังผ่าตัดคนไข้ต้องพยาบาลฝึกหายใจเข้าออก เอาก๊าซยาสลบออกจากร่างกายจะได้ฟื้นตัวไวๆ
คนไข้ต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลจำนวน 2 คืน
เวลา 20.10 น. พยาบาลเข้ามาดูอาการพร้อมฉีดยาแก้ปวดให้
เวลาคนไข้เริ่มสามารถเริ่มดื่มน้ำได้

วันที่ 7

09.00 น. พยาบาลถอดสายระบายปัสสาวะและท่อที่จมูกออก โดยคนไข้มีอาการหายใจลำบาก ดื่มน้ำได้แล้ว แต่ยังกลืนไม่ค่อยลง ซึ่งเหล่านี้เป็นอาการปกติที่เกิดขึ้น และจะค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยหลังทำ
10.30 น. คนไข้ไปห้องทำแผล โดยมีคุณหมอคิมเป็นผู้ตรวจเช็คแผลผ่าตัดในช่องปากและล้างทำความสะอาดแผลให้ พร้อมกับดูดน้ำมูกและเสมหะออกให้
คุณหมอให้คนไข้ลองกัดฟันกรามและเช็กดูถึงปัญหาฟันสบ ซึ่งคนไข้สามารถกัดได้ดี ไม่มีปัญหาใดๆ ตอนนี้ใบหน้าเล็กลงแล้วแต่เริ่มมีอาการบวมบ้างแล้ว ซึ่งเมื่ออาการบวมยุบไปจะดีขึ้น
หลังจากนั้นคนไข้ได้เข้ารับการถ่ายรูป X-Ray และ CT scan หลังผ่าตัดเรียบร้อย
ช่วงเย็นพยาบาลมาวัดความดัน ซึ่งผลออกมาปกติดี และคนไข้สามารถลุกเดินไปห้องน้ำ และเดินไปมาได้เอง

วันที่ 8

08.30 น. คนไข้เข้าพบเพื่อตรวจเช็คกับหมอคิมอีกครั้ง หมอคิมทำการดูดน้ำมูกและเสมหะออกให้ พร้อมกับล้างทำความสะอาดและเช็คแผลในช่องปาก ซึ่งแผลสะอาดเรียบร้อยดี
จากนั้นก็รับยาจากทางโรงพยาบาล
ล่ามพาคนไข้เดินทางกลับไปพักรักษาตัวต่อที่โรงแรม

วันที่ 8-12

คนไข้เดินทางไปล้างแผลที่โรงพยาบาล พร้อมทำโปรแกรมฉายแสงลดบวมที่ทางเอเจนซี่จัดเตรียมไว้ให้

วันที่ 13

คนไข้เข้าพบหมอเพื่อทำการตัดไหม บริเวณโหนกแก้มทั้งสองข้างออกและทำการแปะเทปสมานแผลไว้ให้ (แปะไว้ 2-3 วันถึงแกะออกได้)
คุณหมอทำความสะอาดแผลในช่องปาก
คุณหมอให้ได้คนไข้ลองกัดฟัน โดยใส่อุปกรณ์เวเฟอร์อยู่ด้วย เพื่อตำแหน่งการสบฟันพบว่าปกติดี พร้อมแจ้งว่าตั้งแต่วันนี้ต้องเกี่ยวยางดึงฟันเพื่อรักษาตำแหน่งกระดูกและการสบฟันหลังผ่าตัดให้เข้าที่ดี โดยควรเกี่ยวยาง (ที่สกรู) ไว้ตลอด ยกเว้นตอนนอนหลับกลางคืน ตอนทานอาหาร

วันที่ 21

คนไข้เข้าพบหมอเพื่อทำการตัดไหมในปาก
ในวันนี้คนไข้มีอาการปวดบริเวณระหว่างโหนกแก้มกับกราม โดยเฉพาะเวลาที่เผลอหลับไปและตื่นขึ้นมาจะมีอาการปวดมาก คุณหมอเช็คได้ดูแผลในช่องปากแล้ว แผลปกติดีไม่มีอาการอักเสบ น่าจะเป็นเพราะกล้ามเนื้อบริเวณรอบๆ ขากรรไกรอักเสบ คุณหมอจึงสั่งยารักษาอาการกล้ามเนื้ออักเสบให้ทาน 5 วัน ทานวันละ 1 ครั้งก่อนนอน