ปัญหาที่คนไข้กังวล
- คนไข้กังวลปัญหาคางยื่นออกมาด้านหน้า
- ใบหน้าช่วงกลาง (บริเวณร่องแก้ม) ดูยุบบุ๋มเข้าไป

รายการผ่าตัด
- ผ่าตัดเลื่อนขากรรไกร
- วีไลน์(กราม+คาง)
- เสริมร่องแก้ม
ตารางผ่าตัดศัลยกรรม
เคสนี้คนไข้เข้ารับการปรึกษาและผ่าตัดกับ คุณหมอ Han Wool Choung โรงพยาบาลโซลเฟส (Soeulface21 Hospital)
วันที่ 1 – เดินทางถึงเกาหลี เพื่อปรึกษา ตรวจร่างกาย และพิมพ์ฟัน ที่โรงพยาบาล Seoulface21
- ล่ามทีมงาน surgeryreview ดำเนินการพาคนไข้ เข้าตรวจร่างกายอย่างละเอียด (CT scan, ถ่ายรูป, วัดคลื่นหัวใจ + X-ray ปอด, ตรวจเลือด)
- วันนี้ได้ตรวจเชคฟัน พิมพ์ฟันเพื่อทำเวเฟอร์ และถ่ายรูปในช่องปากและรูปใบหน้า
- ในการปรึกษา คุณหมอแจ้งว่า จะผ่าตัดโดยปรับหมุนองศา และตัดต่อกระดูกขากรรไกรบน-ล่าง และดันกระดูกคางที่ยื่นมาด้านหน้าให้ยุบถอยหลังเข้าไป พร้อมกับลดความยาวช่วงคางให้สั้นขึ้นอีก
- คุณหมอจะทำการปลูกถ่ายกระดูกเพิ่มที่บริเวณใบหน้าช่วงกลาง(ร่องแก้ม) เพื่อให้ใบหน้าดูมีมิติ มีวอลลุ่มมากขึ้น
วันที่ 5 – ดีไซน์หน้าก่อนเข้าผ่าตัด และเข้ารับการผ่าตัดกับคุณหมอชอง ที่โรงพยาบาล Seoulface21
- เมื่อมาถึงโรงพยาบาล คนไข้เปลี่ยนชุดโรงพยาบาล ล้างหน้า และบ้วนปาก จากนั้นเข้าพบคุณหมอชองเพื่อคุยปรึกษาก่อนเข้ารับการผ่าตัดในวันนี้
- ก่อนเข้าผ่าตัดคุณหมอแจ้งว่าจะผ่าตัดตามแผนการที่ได้วางไว้ โดยจะผ่าตัดขากรรไกรบน-ล่าง ปรับคางที่ดูยื่นออกมาด้านหน้า ปรับรูปหน้าวีไลน์ให้ดูเรียวขึ้น และลดความยาวของคาง รวมถึงปรับใบหน้าช่วงกลางบริเวณใต้ปีกจมูกให้ดูมีมิติมากขึ้น
- คนไข้เซ็นเอกสารยินยอมเข้ารับการผ่าตัด และพบวิสัญญีแพทย์เพื่ออธิบายข้อควรปฏิบัติหลังผ่าตัด
- เมื่อผ่าตัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ล่ามทีมงานของเราเข้าไปปลุกคนไข้ และพาไปพักที่ห้องพักฟื้น คนไข้ฟื้นตัวหลังผ่าตัดได้ค่อนข้างไว แม้จะมีอาการเวียนศรีษะบ้าง ปวดบ้างเล็กน้อย แต่ไม่มีอาเจียน
- ในเวลา 2 ชั่วโมงหลังผ่าตัดคนไข้ห้ามหลับ เนื่องจากต้องหายใจเข้าออกช้าๆ ให้ตัวยาสลบออกจากร่างกาย
- พยาบาลเข้ามาฉีดยาฆ่าเชื้อ และยาแก้ปวดให้ทางสายน้ำเกลือ พร้อมกับวัดไข้
- คุณหมอชองมาเยี่ยม และแจ้งว่าการผ่าตัดเรียบร้อยดี เป็นไปตามแผนที่วางไว้ทุกอย่าง ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ
หลังการผ่าตัดวันที่ 1
- ล่ามของเราเข้าเยี่ยมคนไข้ ที่รพ. Seoulface
- อาการคนไข้วันนี้ อาการบวมไม่ได้บวมมากขึ้นกว่าเมื่อวาน คนไข้สามารถลุกไปห้องน้ำเองได้ แต่ยังมีอาการเวียนศรีษะบ้างเล็กน้อย
- พยาบาลพาคนไข้ไปทำแผล และล้างแผลในช่องปาก พร้อมกับถ่ายรูป CT scan, X-ray กระดูกโครงหน้าขากรรไกรหลังผ่าตัด
- ในช่วงบ่าย พยาบาลเข้ามาวัดไข้ วัดความดัน และพาคนไข้ไปล้างแผล และทำแผลรอบบ่าย หลังจากนั้นพบคุณหมอและเปิดภาพถ่าย CT scan เปรียบเทียบกระดูกโครงหน้าขากรรไกรก่อน-หลังผ่าตัด พร้อมอธิบาย
- ข้อแนะนำของคุณหมอในวันนี้ คือ พยายามดื่มน้ำ ทานนมฝึกกลืนบ่อยๆ เพื่อให้ลิ้น และกล้ามเนื้อในปากได้ขยับบ้าง รวมถึงควรเดินขยับร่างกายไปมาให้บ่อยๆ จะช่วยบรรเทาอาการบวมได้
- ในช่วงเย็น พยาบาลนำยาแก้ปวด และยาฆ่าเชื้อมาให้ทาน พร้อมกับวัดไข้ วัดความดัน
หลังการผ่าตัดวันที่ 2
- ในตอนเช้าพยาบาลได้พาคนไข้ไปสระผม เป็นบริการของทางโรงพยาบาล
- พยาบาลได้พาคนไข้ไปห้องทำแผลเพื่อถอดสายระบายเลือดในปากออกให้ หลังจากนั้นพยาบาลได้สอนวิธีใส่เวเฟอร์และยางเกี่ยวสกรูให้
- พยาบาลได้อธิบายข้อควรปฏิบัติต่างๆหลังผ่าตัดให้คนไข้ฟัง และหลังจากนั้นให้คนไข้ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า และรับบริการฉายแสงลดบวม
- ในวันนี้คนไข้เข้าพบคุณหมอชองเพื่อเช็คแผลในช่องปากก่อนออกจากโรงพยาบาล คุณหมอแจ้งว่า ผลผ่าตัดของคนไข้ออกมาดีมาก วันนี้หลังเอาสายเดรนออกแล้ว ใบหน้าอาจจะบวมขึ้นได้บ้างเล็กน้อย โดยอาการบวมจะบวมมากในช่วง 1 สัปดาห์แรกหลังผ่าตัด ช่วงนี้ให้หมั่นประคบเย็นมากๆเพื่อบรรเทาอาการบวม
หลังการผ่าตัดวันที่ 7
- วันนี้คุณหมอได้เชคแผลในช่องปากและเชคการกัดฟัน สบฟันหลังผ่าตัด
- คุณหมอให้คนไข้ใส่เวเฟอร์และเกี่ยวยางไว้ (ข้างละ 2 เส้น )ตลอดเวลา และไม่ควรถอดออกเลย แม้จะตอนทานอาหาร, ทานน้ำ, ทานยา, แปรงฟัน ก็ให้เกี่ยวไว้ เพื่อล็อคตำแหน่งของกระดูกและฟันหลังผ่าตัดให้เข้าที่ดี
- ข้อควรระวัง ห้ามพูดหรืออ้าปากมาก ให้สื่อสารด้วยวิธีการพิมพ์ข้อความแทนจะดีต่อคนไข้มากที่สุด
- วันนี้คนไข้ได้รับบริการฉายแสงลดบวม 30 นาที
หลังการผ่าตัดวันที่ 8
- ในวันนี้คุณหมอแจ้งว่า โดยรวมอาการดีค่ะ การสบฟันดีขึ้น แต่แผลเย็บในช่องปากด้านขวาล่างค่อนข้างอ่อนแอ (มีแนวโน้มว่าแผลอาจเปิดได้) คุณหมอแนะนำให้งดการพูดให้น้อยลง รักษาความสะอาดในช่องปาก และห้ามนอนตะแคงเด็ดขาด
หลังการผ่าตัดวันที่ 9
- วันนี้ได้เช็คแผลในช่องปาก และการสบฟันของคนไข้ โดยได้ทำความสะอาดล้างแผลในช่องปากให้ คุณหมอแจ้งว่าการสบฟันของคนไข้วันนี้ดีขึ้นกว่าเมื่อวานมาก
- วันนี้คนไข้ได้รับบริการฉายแสงลดบวม 30 นาที


หลังการผ่าตัดวันที่ 12
- วันนี้คุณหมอได้เช็คแผล ล้างแผลในช่องปาก และตัดไหมที่ละลายแล้วออกให้บางส่วน
- พยาบาลสอนวิธีบริหารปาก (โอ – อู – อี) บริหารปากท่าละ 10 วินาที โดยให้บริหารตอนเวลานั่งว่างๆ เพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณปากและใบหน้ากลับมาเป็นปกติได้ไวขึ้น
- คุณหมอแจ้งว่าการสบฟันตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว
- วันนี้คนไข้ได้รับบริการฉายแสงลดบวม 30 นาที จำนวน 2 รอบ
หลังการผ่าตัดวันที่ 14
- วันนี้คุณหมอได้เช็คการกัดฟัน และการสบฟัน คุณหมอแจ้งว่าผลหลังผ่าตัดตอนนี้ดีมากๆ และแนะนำให้คนไข้ฝึกบริการปากตามคลิปวิดีโอของทางโรงพยาบาลต่อไป
- คุณหมอแจ้งว่า เมื่อผ่าตัดครบ 5 สัปดาห์แล้ว จะเริ่มเคี้ยวอาหารอ่อนนิ่มต่างๆได้ แต่ยังต้องเว้นอาหารที่แข็งและเหนียวอยู่ จนกว่าจะครบ 3 เดือนหลังผ่าตัด
- วันนี้คนไข้ได้รับบริการฉายแสงลดบวม 30 นาที จำนวน 2 รอบ
หลังการผ่าตัดวันที่ 19
- วันนี้ทางโรงพยาบาล ได้เช็คแผลภายในช่องปาก การสบฟัน โดยแจ้งว่าตอนนี้ตำแหน่งการสบฟัน กัดฟันของคนไข้ดีมากๆ อาการบวมต่างๆก็ยุบไปค่อนข้างมากแล้ว
- หลังจากเช็คแผลในช่องปากเรียบร้อยแล้ว พาคนไข้ไปทำนวดหน้าด้วยคลื่น ultra sonic จะช่วยให้ผิวด้านในที่แข็งนั้นอ่อนนุ่มลง จะรู้สึกสบายหน้าขึ้น
- ตั้งแต่วันนี้ไปให้คนไข้เกี่ยวยางดึงฟันที่สกรูซึ่งฝังอยู่ด้านในไม่ต้องเกี่ยวแล้ว เพื่อช่วยให้ร่างกายคุ้นชินกับตำแหน่ง และจังหวะการกัดฟัน/สบฟันหลังผ่าตัดได้ดี คนไข้จะสามารถอ้าปากได้มากขึ้น
- วันนี้คนไข้ได้รับบริการฉายแสง และอบออกซิเจนลดบวม
หลังการผ่าตัดวันที่ 21
- ในวันนี้วันนี้คุณหมอชองได้เช็คแผลภายในช่องปาก และให้คนไข้ลองกัดฟัน เพื่อเชคการสบฟัน โดยคุณหมอแจ้งว่า การสบฟันของคนไข้ตอนนี้ดีมากๆ
- เมื่อครบ 5 สัปดาห์หลังผ่าตัดแล้ว คนไข้จะสามารถเริ่มเคี้ยวทานอาหารได้ แต่ยังต้องหลีกเลี่ยงอาหารแข็งและเหนียวไปก่อน จะสามารถทานอาหารแบบปกติเหมือนก่อนผ่าตัด ได้เมื่อครบ 3 เดือนหลังผ่าตัด
- หลังพบคุณหมอได้พาคนไข้เข้ารับบริการฉีดผิว เพื่อช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่และปรับโทนสีผิวให้ดูกระจ่างสว่างขึ้น พร้อมกับมาส์กหน้าปลอบประโลมผิวหลังรับบริการฉีดผิว
- วันนี้คนไข้ได้รับบริการฉายแสง และอบออกซิเจนลดบวม
หลังการผ่าตัดวันที่ 28
- วันนี้ก่อนกลับประเทศไทย คุณหมอจึงเอาสกรูในเหงือกออกให้ทั้งหมดแล้ว จุดที่เอาสกรูออกนั้นจะเห็นเป็นรูเล็กๆอยู่บ้าง ใช้เวลาประมาณ 2 วัน แผลจะปิดสนิท และหายดี
- คุณหมอชองได้เปิดภาพถ่ายกระดูกโครงหน้าเปรียบเทียบก่อน-หลังผ่าตัดให้คนไข้ดู จะเห็นอย่างชัดเจนว่า ใบหน้าดูเล็กลง คางสั้นขึ้นและยุบถอยเข้าไปด้านหลัง, ร่องแก้มบริเวณข้างปีกจมูกที่เดิมทีเป็นร่องบุ๋มก็มีมิติมากขึ้น
- วันนี้คนไข้ได้รับบริการฉายแสงลดบวม 30 นาที
- คุณหมอแจ้งว่า แนะนำว่าควรต้องใส่เวเฟอร์ต่ออีกเป็นเวลา 1 เดือน และสามารถเริ่มเคี้ยวทานอาหารอ่อนนิ่มได้เมื่อผ่าตัดครบ 5 สัปดาห์
รีวิวผลลัพธ์ก่อน-หลังผ่าตัด
- หลังผ่าตัดจะเห็นได้ว่าคางดูสั้นลง และใบหน้าดูมีมิติ และสมดุลกันมากขึ้น
สรุปราคาและค่าใช้จ่าย
- ผ่าตัดเลื่อนขากรรไกร และ วีไลน์(กราม+คาง) ราคา 22,500,000 KRW
- เสริมร่องแก้ม ราคา 2,100,000 KRW
รวมราคาศัลยกรรม 24,600,000 KRW หรือคิดเป็นราคาประมาณ 664,000 บาท ค่ะ (ได้ Tax refund คืนประมาณ 46,000 บาท)