หลังจากการศัลยกรรมย่อมมีอาการบวมช้ำ ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เกิดจากการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อและเป็นสิ่งที่หลายคนกังวลว่าจะหายช้าและใช้เวลานาน โดยอาการบวมช้ำนี้ไม่ใช่เพราะฝีมือศัลยแพทย์แต่เป็นปฏิกิริยาปกติของร่างกายหลังการผ่าตัดทุกชนิดและการตอบสนองของสภาพร่างกายแต่ละคน
ซึ่งเรามีวิธีการดูแลฟื้นตัวหลังการผ่าตัด มาแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการให้แผลหายเร็วและฟื้นตัวได้ไวขึ้น
อาการบวมหลังศัลยกรรม คืออะไร
อาการบวมหลังศัลยกรรม คือ ภาวะที่ร่างกายตอบสนองต่อการผ่าตัดหรือการทำศัลยกรรม โดยเกิดจากการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อและหลอดเลือดบริเวณที่ทำการผ่าตัด ทำให้มีการสะสมของน้ำเหลือง เลือด และของเหลวในบริเวณนั้นจนทำให้เกิดการบวมขึ้น ร่างกายใช้กลไกนี้เพื่อซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่ได้รับความเสียหาย อาการบวมนี้จึงเป็นกระบวนการรักษาตามธรรมชาติและเป็นเรื่องปกติที่พบหลังทำศัลยกรรมต่าง ๆ เช่น ทำตาสองชั้น เสริมจมูก หรืองานศัลยกรรมใบหน้าอื่น ๆ
อาการบวม เกิดจากอะไร?
อาการบวมเป็นปฏิกิริยาป้องกันตามธรรมชาติของร่างกายต่อการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อหลังการทำศัลยกรรม โดยความรุนแรงของอาการจะแตกต่างกันไปและจะค่อย ๆ ลดลงเองตามเวลา อย่างไรก็ตาม หากอาการบวมมีลักษณะผิดปกติหรือคงอยู่นานเกินไป อาจเกิดจากการดูแลตนเองที่ไม่เหมาะสม ทำให้กระบวนการฟื้นตัวใช้เวลานานขึ้น
อาการบวมหลังศัลยกรรม กี่วันหาย?
อาการบวมหลังศัลยกรรมจะบวมมากที่สุดในช่วง 1-3 วันแรก เพราะการตอบสนองต่อการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อ จากนั้นอาการบวมจะค่อย ๆ ลดลงอย่างเห็นได้ชัดในช่วง 4-7 วัน และจะลดลงอย่างมากในช่วง 2-3 สัปดาห์แรก ทำให้บริเวณที่ผ่าตัดเริ่มเข้าที่
อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวเต็มที่และอาการบวมทั้งหมดจะหายไปต้องใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือน ซึ่งขึ้นอยู่กับชนิดของการศัลยกรรมและการดูแลหลังผ่าตัดเป็นสำคัญ
ใครบ้างที่ต้องลดบวมหลังศัลยกรรม
คนที่ต้องลดบวมหลังศัลยกรรมคือผู้ที่ผ่านการผ่าตัดในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ศัลยกรรมใบหน้า (ตาสองชั้น, เสริมจมูก) หรือบริเวณอื่นที่เสี่ยงต่ออาการบวม โดยเฉพาะคนที่มีแผลผ่าตัดบริเวณใบหน้าหรือส่วนที่บอบบาง
ใครบ้างที่ไม่ต้องลดบวมหลังศัลยกรรม
ผู้ที่ทำหัตถการศัลยกรรมขนาดเล็กหรือที่มีการบาดเจ็บน้อย เช่น การเสริมความงามที่ไม่ลึกและไม่มีการตัดเย็บมาก อาการบวมมักเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อยจนและคนไข้จะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว ในกรณีที่บวมเล็กน้อยควรดูแลเบื้องต้นด้วยวิธีง่าย ๆ เช่น การพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการกดหรือกระทบกระเทือนบริเวณที่ทำหัตถการ
5 วิธีลดบวมหลังศัลยกรรม และการดูแลตัวเอง
1. ประคบเย็น
วิธีลดบวมที่มีประสิทธิภาพสูงสุดคือการประคบเย็น โดยควรเริ่มประคบทันทีหลังการผ่าตัดและต่อเนื่องในช่วง 4 วันแรกเพื่อให้เห็นผลดีที่สุด การประคบเย็นในช่วง 48 ชั่วโมงแรกจะช่วยให้หลอดเลือดหดตัว ลดการไหลเวียนของเลือดและควบคุมการเสียเลือด ซึ่งส่งผลให้ลดอาการบวม ฟกช้ำ และความเจ็บปวดได้อย่างรวดเร็ว โดยแนะนำให้ใช้เจลแพ็ก ผ้าขนหนูแช่แข็ง หรือผ้าห่อน้ำแข็งประคบสลับกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แผลหายบวมได้เร็วขึ้นและลดอาการบวมได้ดี
2. ยกหัวให้สูง
เป็นวิธีลดบวมหลังที่ทำได้ง่ายที่สุด โดยเฉพาะในช่วง 3-5 วันแรก ควรนอนยกศีรษะให้สูงกว่าระดับหัวใจ จะช่วยลดการสะสมของเลือดบริเวณที่ผ่าตัดได้ดีที่สุด ควรนอนหงายและใช้หมอนหนุนศีรษะให้สูงกว่าปกติ และหลีกเลี่ยงการนอนตะแคงหรือนอนคว่ำซึ่งอาจเพิ่มแรงกดและทำให้อาการบวมแย่ลง
3. ประคบอุ่น
การประคบอุ่นช่วยลดบวมและรอยช้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยความร้อนจะกระตุ้นให้หลอดเลือดขยายตัวเพิ่มการไหลเวียนโลหิต เร่งการดูดซึมของเหลวและลิ่มเลือดที่ค้างในเนื้อเยื่อ ทั้งยังช่วยให้พังผืดนุ่มลงด้วย ข้อควรระวังคือไม่ควรให้ร้อนเกินไปจนผิวหนังไหม้ หากพบว่าแผลมีอาการบวมมากขึ้นขณะประคบควรรีบหยุดทันที โดยทั่วไปแนะนำให้เริ่มประคบอุ่นตั้งแต่วันที่ 5 หลังการผ่าตัดเป็นต้นไป
4. ทานยาตามศัลยแพทย์สั่ง
การรับประทานยาตามที่ศัลยแพทย์สั่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งโดยเฉพาะยาฆ่าเชื้อ (ยาปฏิชีวนะ) ต้องรับประทานตามกำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการติดเชื้อและลดความเสี่ยงของการอักเสบ หลีกเลี่ยงการหยุดยาเองก่อนครบกำหนดเพราะอาจทำให้เชื้อดื้อยาหรือเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงกว่าเดิมได้
5. ล้างแผลให้สะอาด
หลังการศัลยกรรมสิ่งสำคัญอันดับแรกคือการรักษาความสะอาดบริเวณบาดแผลอย่างเคร่งครัด โดยในช่วงแรกควรหลีกเลี่ยงไม่ให้แผลโดนน้ำ เพื่อป้องกันการติดเชื้อและภาวะแผลหายช้า ควรดูแลความสะอาดอย่างเบามือที่สุดโดยใช้คอตตอนบัดสะอาดซับของเหลวที่ซึมออกจากแผลเท่านั้น
อาหารที่ควรงด เพื่อลดบวมหลังศัลยกรรม
วิธีลดบวมหลังศัลยกรรมให้ดีเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องอาหารที่อาจส่งผลต่อการหายของแผลหรือเพิ่มความเสี่ยงติดเชื้อได้
- งดวิตามิน/อาหารเสริม ที่มีส่วนผสมของวิตามินอี น้ำมันปลา หรือยาแอสไพริน เพราะอาจส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เพิ่มความบวมช้ำ และทำให้แผลหายช้าลง
- งดอาหารรสจัด ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสเผ็ด/ร้อน โดยเฉพาะหลังทำศัลยกรรมจมูก เพราะอาจกระตุ้นให้น้ำมูกไหล ทำให้แผลหายช้าและเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
- งดอาหารหมักดอง/สุกๆ ดิบๆ ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่สะอาด เช่น อาหารหมักดอง ลาบ ก้อย เนื้อที่ไม่สุกเพื่อป้องกันการติดเชื้อและอาการบวมที่เกิดจากความเค็ม
- งดการดื่มสุรา/แอลกอฮอล์ ควรหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ทุกชนิด เพราะจะกระตุ้นการสูบฉีดเลือด เพิ่มความดันโลหิต ทำลายเซลล์ที่ช่วยรักษาแผลและเพิ่มความเสี่ยงติดเชื้อ
- งดอาหารทะเลบางชนิด ควรหลีกเลี่ยงอาหารทะเล เช่น กุ้ง หอย ปู ปลาในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอาการแพ้ คัน บวม หรืออักเสบที่บาดแผล
หลักการเลือกอาหารเพื่อลดบวมหลังศัลยกรรม
วิธีลดบวมหลังศัลยกรรมควรเลือกอาหารที่มีคุณสมบัติช่วยลดอาการบวม ดังนี้
- ลดอักเสบตามธรรมชาติ: เลือกอาหารที่ช่วยลดการอักเสบในร่างกายได้ตามธรรมชาติ
- เสริมสร้างการสร้างเนื้อเยื่อใหม่: เน้นอาหารที่ช่วยเร่งการสร้างเนื้อเยื่อและซ่อมแซมบาดแผล
- ต้านเชื้อโรค: รับประทานอาหารที่มีคุณสมบัติช่วยต่อต้านเชื้อโรคเพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อ
- เพิ่มการไหลเวียนเลือด: เลือกอาหารที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดให้ดียิ่งขึ้น
- ลดการคั่งของเหลวในเนื้อเยื่อ: เน้นอาหารที่ช่วยลดการสะสมหรือคั่งค้างของของเหลวในบริเวณที่ผ่าตัด
5 อาหารลดบวมหลังทำศัลยกรรม
- มะพร้าว(น้ำ): มีอิเล็กโทรไลต์ช่วยขับของเสียและเพิ่มการไหลเวียนเลือด ช่วยลดอาการบวมช้ำและรอยเขียวให้จางลงได้เร็วขึ้น
- ฟักทอง: อุดมด้วยเบต้าแคโรทีน, วิตามิน A และ C ซึ่งช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ต้านการอักเสบ และสำคัญต่อกระบวนการสมานแผล
- ถั่วดำ: มีแอนโทไซยานินเป็นสารต้านการอักเสบตามธรรมชาติ ช่วยลดอาการบวมช้ำ เสริมภูมิคุ้มกัน และลดความเครียดของเซลล์หลังผ่าตัด
- บัวบก (ใบบัวบก): กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน มีฤทธิ์แก้อักเสบ ช่วยให้ผิวฟื้นตัวเร็วขึ้น เพิ่มความยืดหยุ่น และลดรอยฟกช้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- สาหร่าย: มีแร่ธาตุสำคัญ เช่น ไอโอดีน สังกะสี แมกนีเซียม ซึ่งช่วยสมานแผล เพิ่มความชุ่มชื้น และลดการอักเสบของผิวได้ดี
คำถามที่พบได้บ่อย (FAQs)
กินไข่หลังทำศัลยกรรม ช่วยลดอาการบวมได้จริงหรือไม่?
กินไข่ช่วยลดบวมได้จริง เพราะไข่มีโปรตีนสูงช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อและสร้างคอลลาเจน ทำให้แผลหายเร็วขึ้น ลดการอักเสบได้ดี
ทานวิตามิน ได้ไหม? หรือควรงดอาหารเสริมหลังผ่าตัด?
แนะนำให้งดวิตามินและอาหารเสริมบางชนิดที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา แอสไพริน อย่างน้อย 2 สัปดาห์ถึง 1 เดือนหลังผ่าตัด เพื่อไม่ให้เกิดเลือดคั่งและแผลบวมช้ำมากขึ้น แต่ถ้าต้องทานจริง ๆ ควรปรึกษาศัลยแพทย์ก่อน
ควรจัดท่านอนอย่างไรเพื่อช่วยลดอาการบวม?
ท่านอนที่ช่วยลดอาการบวมควรนอนยกศีรษะสูงประมาณ 30-45 องศา เพื่อช่วยให้เลือดไหลเวียนดี ลดการคั่งของน้ำเหลืองและบวมได้ดีขึ้น แนะนำใช้อุปกรณ์ช่วยพยุงศีรษะและหลังในช่วงแรกหลังผ่าตัด
การนวดสามารถช่วยลดบวมได้หรือไม่?
การนวดหลังทำศัลยกรรมควรทำเฉพาะเมื่อศัลยแพทย์อนุญาตและอยู่ในช่วงเวลาที่เหมาะสม เพราะอาจเพิ่มการอักเสบและบวม แต่หากนวดอย่างถูกวิธีอาจช่วยกระตุ้นระบบน้ำเหลือง ลดบวมได้บ้าง แนะนำให้ไปพบผู้เชี่ยวชาญ หรือศัลยแพทย์ก่อนเริ่มนวด
สรุป
หลังการศัลยกรรมอาการบวมเป็นปฏิกิริยาปกติของร่างกายที่เกิดจากการบาดเจ็บเนื้อเยื่อ การดูแลและวิธีลดบวมหลังศัลยกรรม เช่น การประคบเย็น ยกหัวสูง รับประทานอาหารที่ช่วยลดอักเสบ และใช้ยาตามศัลยแพทย์สั่ง จะช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็ว ปลอดภัยยิ่งขึ้น ลดปัญหาและเพิ่มประสิทธิภาพการรักษา
ถ้าใครสนใจศัลยกรรมที่ปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดี ลองปรึกษาเอเจนซี SR Surgery ที่เกาหลีที่มีความเชี่ยวชาญด้านการดูแลหลังผ่าตัด สามารถแนะนำวิธีลดบวม และวิธีการดูแลรักษาหลังการทำศัลยกรรมที่ถูกต้อง เพื่อฟื้นตัวไวและสวยงามในมาตรฐาน
เอกสารอ้างอิง
1. Susan Rausch. (2023). How to Manage Edema After Surgery. แหล่งข้อมูล : https://tactilemedical.com/resource-hub/cellulitis-and-edema/how-to-manage-edema-after-surgery/
2. Getting back to normal Having an operation (surgery). (2024). แหล่งข้อมูล : https://www.nhs.uk/tests-and-treatments/having-surgery/recovery/
3. After surgery Having an operation (surgery). (2024). แหล่งข้อมูล : https://www.nhs.uk/tests-and-treatments/having-surgery/afterwards/
4. Samuel Greengard, and Tricia Kinman. (2023). How to Manage Pain, Swelling, and Bruising After a Total Knee Replacement. แหล่งข้อมูล : https://www.healthline.com/health/total-knee-replacement-surgery/managing-postoperative-pain
5. RICE Method for Injury. (n.d.). แหล่งข้อมูล : https://my.clevelandclinic.org/health/treatments/rice-method

